บลัชออนเป็นหนึ่งในไอเทมแต่งหน้าชิ้นสำคัญที่สาวๆหลายคนขาดไม่ได้ ขี้เกียจแต่งหน้าแค่ไหน สาวมอนส์เตอร์อย่างเราก็ต้องขอปัดแก้มให้มันดูมีสีสันบ้างล่ะ เพราะจะได้ฟีลผิวระเรื่อๆ แก้มอมชมพูมีเลือดฝาดเนี่ยสวยจะตาย แต่ก็ใช่ว่าผิวของสาวๆทุกคนจะเหมาะกับบลัชออนทุกสีนะคะ ถ้าเลือกสีไม่ดี ปัดบรัชออนสีที่ไม่เข้ากับผิว จากปังก็กลายเป็นป่วยได้ในพริบตาเหมือนกัน วันนี้เลดี้เลยมีทริคเล็กๆน้อยๆในการเลือกสีบลัชออนให้เข้ากับสีผิวของเรามาฝากกันค่ะ
แต่ก่อนที่เราจะไปดูว่าสีผิวแบบเราต้องใช้บลัชออนสีไหนน้า ถึงจะเหมาะกับแก้มนวลๆของเรา เลดี้ขอพาสาวๆมาดูเกล็ดความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับประเภทของบลัชออนกันก่อนค่ะ บอกเลยว่าสำคัญสำหรับการแต่งหน้าไม่แพ้โทนสีเลยล่ะค่า
ซึ่งบลัชออนที่เราใช้กันมีทั้งหมด 5 ประเภทค่ะ มีแบบฝุ่น แบบครีม แบบผง แบบคูชั่น และแบบน้ำ
1.แบบฝุ่น
บลัชออนแบบฝุ่นมีลักษณะเป็นฝุ่นอัดแข็ง เนื้อแห้ง คล้ายๆแป้งฝุ่นค่ะ โดยนิยมนำมาปัดแก้มหลังลงรองพื้นและแป้งพัฟแล้ว มีทั้งแบบเนื้อแมตต์และเนื้อชิมเมอร์ บลัชออนแบบฝุ่นสามารถเติมได้ทั้งวัน และเหมาะกับสาวที่หน้ามันมากๆ เพราะจะช่วยดักจับความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ดี เป็นบลัชออนที่ใช้ง่าย เหมาะกับมือใหม่มากๆเพราะจะให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติค่ะ แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกัน เพราะบลัชออนชนิดนี้จะติดทนน้อยกว่าชนิดอื่นๆค่ะ
2.แบบครีม
บลัชออนแบบครีมมีลักษณะเป็นเนื้อครีมอัดแน่น เม็ดสีแน่น และติดทนมากๆค่ะ เหมาะสำหรับสาวผิวแห้ง เพราะเป็นบลัชที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีค่ะ วิธีใช้บลัชออนเนื้อครีมที่เลดี้อยากจะแนะนำคือ ให้ทาหลังลงรองพื้นเสร็จแล้วค่อยทาแป้งฝุ่นทับอีกที โดยใช้นิ้วค่อยๆเกลี่ยในจุดที่ต้องการให้มีสีสันเท่านั้น เพราะความอุ่นจากนิ้วมือจะทำให้บลัชออนเนื้อครีมเกลี่ยง่ายขึ้นและให้ยังให้ความติดทนที่มากกว่าแบบฝุ่นด้วยค่ะ นอกจากนี้บลัชออนเนื้อครีมยังเหมาะกับสาวๆที่ต้องการลุคแน่นๆ ไม่ต้องเติมระหว่างวัน แต่ยังทำให้ดูเป็นธรรมชาติในขณะเดียวกันได้ด้วยค่า
3. แบบน้ำ
บลัชออนแบบน้ำมีลักษณะคล้ายๆบลัชออนเนื้อครีมค่ะ แต่เหลวกว่า จะให้ความเป็นธรรมชาติ ทำให้บลัชออนชนิดนี้เป็นที่นิยมมากๆ ที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือ แบบทิ้นท์ สาวๆวัยใสจะใช้กันเยอะมาก เพราะมันใช้ง่าย สีสวยและให้ความเป็นธรรมชาติมากๆ วิธีใช้คือ เอานิ้วเราเนี่ยแหละค่ะ ค่อยๆเกลี่ยหลังลงรองพื้นและไม่นิยมลงแป้งฝุ่นตามเท่าไหร่ เพราะบลัชออนชนิดนี้จะเน้นโชว์งานแก้ม งานผิวใสๆมากกว่า และยังติดทนระหว่างวันมากๆด้วย ส่วนข้อเสียมีอยู่นิดนึง คือ บลัชออนชนิดนี้แห้งเร็วมากๆ เพราะฉะนั้น เวลาใช้สาวๆต้องรีบเกลี่ยๆหน่อยแล้วล่ะค่ะ
4.แบบผง
บลัชออนแบบผงส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อแมตต์ค่ะ บลัชออนชนิดนี้จะคล้ายๆแบบฝุ่น แต่จะละเอียดกว่าและมักใช้คู่กับฟองน้ำฟรือพัฟที่แถมมาด้วยค่ะ โดยข้อควรระวังของบลัชออนชนิดนี้คือ ควบคุมสียากค่ะ ถ้าลงน้ำหนักมือมากเกินไป สีแก้มก็จะแดงเป็นก้นลิงแบบที่ปัดไปก่อนเดี๋ยวอ่อนเองก็ช่วยไม่ได้ค่ะ บลัชออนแบบฝุ่นจึงไม่ค่อยเหมาะสำหรับมือใหม่เท่าไหร่ค่า
5.แบบคูชั่น
บลัชออนแบบสุดท้ายที่สาวๆนิยมใช้กันคือ แบบคูชั่นค่ะ มีลักษณะเป็นเนื้อที่ค่อนข้างบางเบา จะอยู่กึ่งกลางระหว่างบลัชแบบครีมและแบบน้ำ ตัวนี้จะทาหลังลงรองพื้น ก่อนที่จะเซทด้วยแป้งนะคะ ฟินิชลุคที่ได้จะให้ลุคที่ค่อนข้างบางเบา เป็นธรรมชาติ เพราะตัวบลัชจะเกลี่ยง่าย ทำให้สีดูเนียนเข้ากับผิวเราค่ะ ให้ลุคฉ่ำวาวสไตล์สาวเกาหลี เน้นโชว์ผิวฉ่ำๆดูเป็นธรรมชาติ สามารถเติมระหว่างวันได้ และมีความติดทนมากเลยล่ะค่ะ อีกสาเหตุที่บลัชออนคูชั่นเป็นที่นิยมก็เพราะ แบรนด์ทางเกาหลีมักทำสีคูชั่นออกมาได้น่ารัก โดนใจสาวๆนั่นเอง และที่สำคัญยังใช้ง่ายด้วย เพราะคูชั่นประเภทนี้จะมีพัฟแถมมาให้พร้อมใช้ไปในตัวค่ะ
โทนสีผิวก็มีส่วนในการเลือกสีบลัชออนเหมือนกันนะ!!
เมื่อเราเข้าใจเท็กซ์เจอร์ของบลัชออนแต่ละประเภแล้ว ทีนี้ก็มาดูโทนสีของบลัชออนกันบ้างดีกว่าค่ะ ว่าสีไหนจะสวยเจิดจรัสบนแก้มของเราที่สุด!! เพราะสีผิวของเราก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกโทนสีบลัชออนเหมือนกันนะคะ เคยสังเกตมั้ยว่า สาวๆบางคนปัดสีชมพูไม่เข้าก็มี ปัดสีพีชดูป่วยก็เยอะไปค่ะ เอาล่ะ คราวนี้สาวๆมอนส์เตอร์ทั้งหลายตามเลดี้มาดูกันเลย ว่าสีผิวแบบไหนควรใช้บรัชออนสีอะไร ลุย!!
สาวผิวขาว
เฉดสีผิวที่สาวๆหลายๆคนใฝ่ฝัน อยากขาวอมชมพู ขาวเนียนใสเหมือนผิวสาวญี่ปุ่น สาวเกาหลี เฉดสีนี้รวมไปถึงเฉดสีผิวขาวอมเหลืองด้วยนะคะ เรียกรวมๆว่า ระดับสีผิว Fair ค่ะ สาวผิวขาวใสวิ๊งๆ เหมาะกับบลัชออนที่สีอ่อนๆ โทนสีสดใส เพราะหากเลือกสีเข้มมากไปจะทำให้ดูหลอกตาค่ะ ตัวอย่างก็เช่น ชมพูอ่อน , ชมพูพีช , ส้มอ่อน, ส้มพีช และสีส้มอมชมพู บลัชออนสีเหล่านี้จะทำให้แก้มของสาวๆดูมีสีสันสดใสและเป็นธรรมชาติค่ะ ส่วนสีที่ไม่ควรใช้นอกจากพวกสีเข้มๆแล้ว อีกสีที่เราไม่แนะนำให้ใช้คือ สีน้ำตาลอมแดงค่ะ เพราะจะทำให้สาวๆดูหน้าตอบและซีดได้ค่ะ
Nars Bright Blush สี new attitude ราคา 1,125 บาท
จุดเด่นอยู่ที่เม็ดสีชัด โทนสีเป็นธรรมชาติ เนื้อฝุ่นนุ่มละมุนและบางเบา ได้ฟินิชลุคเป็นธรรมชาติ สามารถเพิ่มเลเยอร์ของสีได้โดยไม่เป็นปื้น กันน้ำกันเหงื่อได้ดีค่ะ ทนความมันได้ในระดับนึงเลย ระหว่างวันสีไม่จืดจางและติดทนนานตลอดทั้งวันเลยค่ะ
CANMAKE Cream Cheek สี cl05 ราคา 280 บาท
บลัชออนเนื้อครีมมูสสุดฮิต ราคาถูกและใช้ดีดี๊ เนื้อครีม นุ่มลื่น เกลี่ยง่ายสีสันชัดเจนติดทนนาน ปาดแล้วไม่เป็นปื้นและไม่เป็นคราบระหว่างวัน เกลี่ยง่าย ติดทนสุดๆ ใช้นิดเดียวก็ติดแก้มทั้งวันแล้วค่ะ
สาวผิวสองสี
สาวไทยส่วนใหญ่มีผิวสีนี้ค่ะ ไม่ขาวมากไป แต่ก็ไม่ได้เข้มจัด หรืออาจจะเรียกว่า ผิวสีแทนก็ได้ค่ะ จริงๆสาวผิวนี้ทาสีชมพูก็ได้นะคะ แต่ควรเป็นเฉดสีชมพูที่เข้มขึ้นหน่อย พวกสีชมพูตุ่นๆ อย่าง ชมพูพีช , ชมพูกะปิ , ชมพูอมม่วง หรือจะฉีกไปสีที่เข้มขึ้นอีกนิดอย่าง สีน้ำตาลประกายทองก็ได้ค่ะ จะช่วยขับให้สีผิวดูมีมิติ มีชีวิตชีวา แต่ก็ดูแพงสุดๆไปเลยค่ะ นอกเหนือจากนี้ หากสาวๆผิวสองสีอยากลองใช้สีอื่นก็ได้เช่นกันค่ะ แต่เลดี้ขอแนะนำเพิ่มอีกนิดว่า สีที่เลือกควรจะเป็นบลัชออนที่เน้นสีกลางๆ ไม่เข้มไป และไม่อ่อนไป เพราะจะเหมาะกับสาวๆผิวสองสีที่สุดค่ะ อย่างสีส้มอมน้ำตาลนี่ก็เป็นสีที่สาวๆผิวสองสีจะปัดแก้มได้สวยที่สุดเลยล่ะค่า
CLINIQUE Cheek Pop สี pink pop ราคา 900 บาท
บลัชออนรูปดอกไม้น่ารักๆของคลีนิกข์ตัวนี้ ช่วงนี้มาแรงเชียวค่ะ เพราะรุ่นนี้โทนสีสวย เป็นธรรมชาติ เนื้อบางเบา แต่เกลี่ยง่ายมาก สีชัด ติดทนทั้งวัน แลดูเป็นสาวสุขภาพดีมีเลือดฝาดนิดๆ แถมตัวนี้ยังช่วยสาวๆอำพรางริ้วรอยตามร่องแก้มได้ด้วยค่ะ
4U2 Love Me More Blush #S9 You Desire Me ราคา 179 บาท
บลัชออนที่จัดว่าถูกและดี และเฉดสีก็มีให้เลือกหลากหลาย ส่วนใหญ่จะเป็นสีบ่มแดดสวยๆ ถูกใจสาวๆม๊ากมาก จุดเด่นอยู่ที่เป็นบลัชออนเนื้อแมตต์สุดเนียนนุ่ม บางเบา ตัวเนื้อมีชิมเมอร์นิดๆ เพิ่มความเปล่งประกายของผิวแก้ม แถมเม็ดสียังแน่น ปัดนิดเดียวก็อยู่ได้นาน ปัดง่าย ยี่ห้อแนะนำสำหรับสาวๆมือใหม่ด้วยค่า
สาวผิวเข้ม
เฉดสีผิวนี้ใครมีคือ เป็นสาวที่เซ็กซี่มากๆค่ะ เป็นสีผิวที่มีเสน่ห์และดูสวยคมมากๆ ว่างๆเลดี้ก็ไปตากแดดให้ผิวดูเข้มๆเหมือนกัน เซ็กซี่น่าค้นหาจะตายไปค่ะ แซ่บๆสายฝอสุดไรสุด ซึ่งสำหรับสาวๆโทนผิวนี้จัดได้ว่า แซ่บมาก เพราะจะปัดสีสันจัดจ้านอย่าง สีส้มอิฐ , สีน้ำตาลอมแดง , น้ำตาลอมส้ม , สีชมพูเข้ม ก็ได้ค่ะ เพราะจะทำให้ผิวสาวๆดูโกลว์และมีสุขภาพดี ยิ่งจัดกับบลัชออนที่มีชิมเมอร์นิดๆคือ ใช่เลย ผิวของสาวๆจะดูสวยฉ่ำและเปล่งประกายมากๆค่ะ หรือถ้าไม่กล้าจัดสีสันจัดจ้าน ทางเราก็แนะนำสีที่ดูเบาลงมาหน่อยอย่าง สีน้ำตาล สีส้มอิฐ หรือโทนสีแดงก่ำๆ อมม่วงหน่อยๆ โทนสีนี้ก็จะยิ่งทำให้สาวๆดูเซ็กซี่ ฮอตปรอทแตกและดูน่าค้นหาสุดๆค่ะ ส่วนสีที่เลดี้ไม่แนะนำเลยคือ สีชมพูสดใส หรือสีแดงจัดค่ะ เพราะเป็นโทนสีที่ตัดกับสีผิวมากไปและอาจจะทำให้ผิวของสาวๆดูไม่เป็นธรรมชาติค่ะ
Too Faced Love Flush #Baby Love ราคา 790 บาท
บลัชออนรูปหัวใจน่ารักที่ติดทนนานถึง 16 ชั่วโมง!! ตัวนี้เป็นบลัชออนเนื้อแมตต์ที่ไม่ผสมชิมเมอร์จึงค่อนข้างติดทนเหมาะกับคนหน้ามันค่ะ เม็ดสีแน่นมาก ปัดนิดเดียวก็ติดทนยาวนาน โทนสีคือ สีแดงอมม่วงก่ำๆ ปัดแล้วได้ลุคที่ดูสวยแบบเซ็กซี่ น่าค้นหา ดูลึกลับ สาวๆผิวเข้มทั้งหลายอยากเซ็กซี่ตอนไปเปรี้ยวๆที่ผับ ต้องจัดตัวนี้ค่ะ!
IN2IT Sheer Shimmer Blush สี Smb01 Cantaloupe ราคา 179 บาท
บลัชออนสีส้มอิฐของอินทูอิทตัวนี้นอกจากจะราคาดีงามแล้ว ยังมีเนื้อชิมเมอร์ผสมด้วยค่ะ ทำให้เวลาใช้ไม่ต้องปัดไฮไลท์เลย เพราะเค้าจะมีความแวววาวที่ผิวแก้มอยู่ในตัว เนื้อสีแน่น เนียนละเอียด สีชัดและติดทนมากๆ สาวๆผิวเข้มมีสีนี้ไว้ในครอบครอง จะได้ลุคส์บ่มแดด สายฝอแบบทั้งสวยและน่ารักในเวลาเดียวกันเลยค่ะ
เพิ่มเติมอีกนิดนะคะ บลัชออนแต่ละประเภทจะมีระยะเวลาในการใช้งานไม่เหมือนกันค่ะ โดย บลัชออนแบบฝุ่น และบลัชออนแบบผง จะมีอายุการใช้งาน 6 เดือนถึง 1 ปี หลังจากวันที่เปิดใช้ ส่วนบลัชออนแบบครีม, บลัชออนแบบน้ำ และบลัชออนแบบคุชชั่น จะมีอายุการใช้งาน 6 เดือน หลังจากวันที่เปิดใช้ค่า
เป็นยังไงกันบ้างคะ สาวๆ ถูกใจกันไหมเอ่ย? กับทริคปัดแก้มเล็กๆน้อยๆที่เลดี้เอามาฝากวันนี้ หวังว่าบทความนี้จะช่วยสาวๆในการเลือกซื้อบลัชออนสีสวยๆที่ถูกใจและเหมาะกับตัวเองในครั้งต่อไปได้นะคะ คราวหน้าเวลาปัดแก้มจะได้ดูเปล่งปลั่ง สีระเรื่อๆ อมเลือดฝาด ให้สวยเจิดตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้านกันไปเลยค่า